วันที่ 20 มีการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพคู่ใหญ่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ กับ เชลซี ต้องบอกว่า ดูจากสถิติที่พบกัน แมนยูดูเหนือกว่าทุกอย่าง แต่กลับโดน เซลซี ชำระแค่นได้สำเร็จ อีกทั้งยังทำลายสถิติลงของ ปีศาจแดงได้สำเร็จ ได้เข้าไปชิงกับ ปืนใหญ่อาร์เซนอลในนัดต่อไป
ต้องบอกว่า ในครึ่งแรก ทั้งคู่ใช้แผนแบบเดียวกัน 3-4-1-2 แต่ทางเชลซีมีการไล่บอลหนักหนักทำให้ทางฝั่งแมนยู ต่อบอลไม่ได้ ทาง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ นัดนี้ดูเหมือนจะจัดตัวนักเตะแบบกั๊กๆ พึ่งมาเปลี่ยนตัวจริงลงครึ่งหลัง แต่ก็สายไปแล้ว ต้องบอกว่า ทางเซลซีวันนี้มาดุจริงๆ แถมมีการเข้าบอลแรงทำให้ทางแมนยูเจ็บไปหลายคน อีริค บายี ที่ถูกหามออกสนาม อาการน่าเป็นห่วง อีกทั้ง แม็กไกวร์ หักแตกเพราะไปโขกกันเอก ดาบิด เด เฆอา ก็ฟอร์มแตกอีกในลูกที่ 2
ทางด้าน สิงห์บลู นายทัพ แฟรง แรมพาด ทำการบ้านมาดี เป็นฝ่ายที่คว้าชัยมาได้ในนัดนี้ แผนการที่วางมาถือว่า ทำได้อย่างดีเยี่ยม ไล่เพรสซิ่งอย่างหนัก ทำให้อีกฝ่ายพลาดไปเอง แล้วเป็นฝ่าย เชลซี ที่เล่นได้ดี มีการครองบอลที่เหนือกว่าคู่แข่ง แล้วยังแกแค้นเอาคืนได้สำเร็จถึง 3 ลูก นับว่าหยุดแมนยูที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงได้อยู่หมัด
อีกสาเหตุทีเห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มไม่เข้าตา อาจเป็นเพราะนักเตะถูกใช้งานหนักไป ตัวจริงไม่เคยได้พักตลอดที่ผ่านมา แถมนักเตะมีโปรแกรมแข่งขันกันแบบติดๆ อีกทั้งวันนี้ก็เห็นแนวหลังพลาดกันเยอะ เรื่องการจัดผู้เล่นก็แบบกั๊กๆ เล่นบอลกันไม่เป็น โดยเฉพาะแดนกลางอย่าง เฟร็ด กับ เนมานย่า มาติช ไม่สามารถพาบอลไปยังแนวหน้าได้อย่างที่ควร แล้ววันนี้ก็เป็น สิงห์บลู ที่ทำการบ้านมาดูเหนือทุกอย่างไล่บี้ แมนยูจนเล่นไม่ออก ต้องชม แรมพาด ที่วางแผนมาได้อย่างไร้ที่ติ